ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ

ความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ 

ประเภท1 ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ประเภท1ปรกติ(ต้องให้ฝ่ายรับประกันพิจารณาเบี้ยประกัน) และ ป.1แคมเปญ(เบี้ยประกันระบุไว้แล้วตายตัว)  คุ้มครองสูงสุดในกลุ่มกรมธรรม์ทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ประเภท2 ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ประเภท2ปรกติ คุ้มครองรถคู่กรณี ทรัพย์สินบุคคลภายนอก คุ้มครองรถหาย ไฟไหม้  แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายตัวรถคันเอาประกัน(ซ่อมรถตัวเอง) และคุ้มครองชีวิตร่างกายอนามัย(ส่วนที่เกิน พ.ร.บ.) บุคคลภายนอก (ไม่ค่อยได้รับความนิยม เนื่องจากเบี้ยใกล้เคียงกับประเภท 5 แต่ความคุ้มครองน้อยกว่า)

ประเภท3 ได้แก่ประกันภัยรถยนต์ประเภท3ปรกติ และ ป.3 มิตรแท้ทวีคูณ(ป.3ธรรมดา+พ.ร.บ.)คุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินและชีวิตร่างกายอนามัย(ส่วนที่เกิน พ.ร.บ.)บุคคลภายนอก

ประเภท 4 ที่บริษัทมิตรประกันภัยแท้ไม่มีกรมธรรม์ประเภทนี้แล้ว เนื่องจากเบี้ยใกล้เคียงกับประเภท3 แต่ได้ความคุ้มครองน้อยกว่าจึงไม่ได้รับความนิยมจึงถูกยกเลิกไป

ประเภท5 ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์2+(ป.2เพิ่มพูน) ป.3+(ป.3เพิ่มพูน) มิตรแท้ตรีคูณ 2+ มิตรแท้ตรีคูณ 3+  กรมธรรม์ประเภท 5 คือการนำเอากรมธรรม์ประเภท2และ 3 มาเพิ่มความคุ้มครองในส่วนของความเสียหายต่อตัวรถยนต์ คันเอาประกันภัยและ ความเสียหายของตัวรถยนต์ เนื่องจากไฟไหม้ และการสูญหายจึงทำให้ได้รับความคุ้มครองที่ค่อนข้างจะครบถ้วน แต่จะคุ้มครองเฉพาะภัยเช่น คุ้มครองเฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น หรือคุ้มครองกรณีน้ำท่วมเท่านั้น

กรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ประเภท 5 จะบังคับให้ผู้เอาประกันภัยต้องเสียค่าความเสียหายส่วนแรก หรือที่เรียกว่า ACCESS จำนวน 2,000 บาท เฉพาะกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิดเท่านั้น แต่ประกันภัยประเภท 5  ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกที่จะไม่เสียค่าความเสียหายส่วนแรกได้ โดยทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ จะเป็นฝ่ายจ่ายให้ผู้เอาประกันภัยแทน

                                                         ประเภทประกันภัยรถยนต์

เพื่อการทำความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ขอยกตัวอย่างอุบัติเหตุให้ดูก่อนเลยนะครับ

     นาย ก.(ผู้ขับรถประกัน) ขับรถ Benz (รถคันเอาประกัน) มาตามถนนโดยนั่งมาพร้อมกับนาง ข.(ผู้โดยสารรถคันทำประกันภัยรถยนต์) ขับมาจนถึงบริเวณหน้าบริษัทมิตรแท้ประกันภัย ได้มีรถ Toyota Vigo(รถคู่กรณี/ทรัพย์สินบุคคลภายนอก) ที่มีนาย ค. เป็นผู้ขับ(ผู้ขับขี่รถคู่กรณี) และมี นาง ง. และ นาง จ.(ผู้โดยสารรถคู่กรณี) เลี้ยวตัดหน้า นาย ก. เบรกไม่ทันจึงได้ชนเข้ากับรถของนาย ค. อย่างจัง ทำให้รถของนาย ก. เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้า(ทรัพย์สินบุคคลภายนอก) ได้รับความเสียหาย และยังไม่พอกระจกมองข้างของรถนาย ก. หักกระเด็นไปโดนศีรษะของเด็กชาย ส.(บุคคลภายนอก) ได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้ นาย ค. ผู้ขับขี่รถ Toyota Vigo เป็นฝ่ายผิด และเป็นเหตุให้

1. รถ Benz (รถคันเอาประกัน) เสียหาย ค่าซ่อม 50,000 บาท
2. นาย ก.(ผู้ขับรถคันทำประกันภัยรถยนต์) ได้รับบาดเจ็บสาหัส ค่ารักษาพยาบาล 10,000 บาท
3. นาง ข.(ผู้โดยสารรถคันทำประกันภัยรถยนต์) ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ค่ารักษาพยาบาล 500 บาท
4. รถ Toyota Vigo (รถคู่กรณี/ทรัพย์สินบุคคลภายนอก) เสียหาย ค่าซ่อม 10,000 บาท
5. นาย ค. (ผู้ขับขี่รถคู่กรณี) เสียชีวิต
6. นาง ง. และ นาง จ. (ผู้โดยสารรถคู่กรณี) ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ค่ารักษาพยาบาลคนละ 500 บาท
7. เสาไฟฟ้า(ทรัพย์สินบุคคลภายนอก) ได้รับความเสียหาย 10,000 บาท
8. เด็กชาย ส.(บุคคลภายนอก) ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ค่ารักษาพยาบาล 500 บาท

 จากข้อมูลตามตารางด้านบน กับตัวอย่างการเกิดอุบัติเหตุที่ให้มา หลายท่านคงจะพอเดาออกแล้วนะครับว่ากรมธรรมแต่ละประเภทจะคุ้มครองและชดใช้ให้ผู้เอาประกันอย่างไรบ้าง หากใครยังไม่เข้าใจ ผมจะอธิบายต่อดังนี้

            1. ความรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกายหรือ อานามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ ได้แก่

                  1.1 นาย ก.(ผู้ขับรถคันทำประกันภัยรถยนต์) และนาง ข.(ผู้โดยสารรถประกัน) ทั้ง 2 คนคือผู้โดยสารในรถคันทำประกันภัยรถยนต์ บริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลตามความเป็นจริง แต่ไม่เกินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
 ข้อควรรู้  ผู้โดยสารในรถคันทำประกันภัยรถยนต์จะต้องไม่ใช่ สามี ภรรยา พ่อ แม่ ลูก หรือลูกจ้างในทางการที่ว่าจ้าง(อยู่ในเวลาทำงาน) หากเป็นบุคคลดังกล่าวบริษัทจะไม่รับผิดชอบ

                 1.2 นาย ค. (ผู้ขับขี่รถคู่กรณี) นาง ง. นาง จ. (ผู้โดยสารรถคู่กรณี) และเด็กชาย ส. (บุคคลภายนอก) ทั้งหมดคือ บุคคลภายนอกสำหรับนาย ค.ที่เสียชีวิต บริษัทประกัภัยนจะชดใช้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง(เฉพาะส่วนที่เกินวงเงินคุ้มครองสูงสุดตาม พ.ร.บ.) และต้องชดใช้ขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อคนส่วน นาง ง. นาง จ. และเด็กชาย ส. บริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลตามความเป็นจริง แต่ไม่เกินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์

          2. ความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ได้แก่
                  2.1 รถ Toyota Vigo (รถคู่กรณี/ทรัพย์สินบุคคลภายนอก) บ.ประกันจะชดใช้ค่าเสียหายตามความเป็นจริง แต่ไม่เกินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

                 2.2 เสาไฟฟ้า(ทรัพย์สินบุคคลภายนอก) บริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าเสียหายตามความเป็นจริง แต่ไม่เกินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

        3. ความเสียหายต่อรถคันเอาประกันภัย ได้แก่
                3.1 รถ Benz (รถคันทำประกันภัยรถยนต์) บริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าเสียหายตามความเป็นจริง แต่ไม่เกินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่ในกรณีที่รถเสียหายโดยสินเชิง(ไม่สามารถซ่อมให้กลับมาสู่สภาพที่ใช้งานได้ตามปกติ) บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้เต็มจำนวนที่เอาประกัน แต่ซากรถจะตกเป็นของบริษัท

ชนแล้วแลกใบเคลม

ข้อยกเว้นสำคัญที่ควรรู้

• ยกเว้นในกรณีที่นำรถไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย เช่น ใช้ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือขนยาเสพติด เป็นต้น
• ยกเว้นในกรณีที่นำรถไปใช้ในการแข่งขันความเร็ว ที่ให้ความเสี่ยงสูง เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายแต่ถ้าเป็นการแข่งแรลลี่ที่มิได้ใช้ความเร็ว กรณีจะยังคงได้รับความคุ้มครองตามปกติ
• ยกเว้นในการใช้ลากจูงหรือผลักดัน เว้นแต่รถที่ถูกลากจูงหรือถูกผลักดันได้ประกันภัยไว้กับบริษัทด้วย เช่นการนำรถของเราที่มีประกันไปลากรถของเพื่อนที่เสียไปที่อู่
  ข้อควรรู้  กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับรถบรรทุกที่เป็นรถพ่วงและรถที่ถูกลากจูงต้องเป็นรถที่มีเครื่องยนต์หรือสามารถขับเครื่องได้ด้วยตัวเอง
•  ยกเว้นการใช้รถนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ขณะเกิดเหตุ เช่นหากในกรมธรรมระบุว่าใช้ส่วนบุคคลแต่ขณะเกิดเหตุผู้เอาประกันเอาไปใช้รับจ้าง ในกรณีนี้บริษัทจะไม่รับผิดชอบ
•  ยกเว้นในกรณีที่ ผู้ขับขี่ ขับขี่ในขณะมึนเมา มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• ยกเว้นกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มีใบขับขี่ หรือเคยได้รับแต่ถูกตัดสิทธิ

    4. ความเสียหายต่อตัวรถที่เกิดจากไฟไหม้ และการสูญหาย ในตัวอย่างที่การเกิดอุบัติเหตุด้านบนไม่ได้มีไฟไหม้ และการสูญหายผมจะขออธิบาย ดังนี้

รถยนต์สูญหาย

           4.1 รถยนต์สูญหาย บริษัทจะรับชดใช้ค่าสินไหม เมื่อรถยนต์ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งส่วนใดของรถ รวมทั้งอุปกรณ์ตกแต่งทั้งติดมากับโรงงาน หรือศูนย์จำหน่าย รวมทั้งที่ผู้เอาประกันได้ตกแต่งเพิ่มเติมขึ้นมาเอง แต่ทั้งนี้ต้องแจ้งให้บริษัทประกันภัยรถยนต์รับทราบด้วย และการสูญหายต้องเกิดจาก การลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ทำหายก็ตามก็จะได้รับความคุ้มครอง นอกจากนี้กรมธรรม์ยังคุ้มความเสียหายที่เกิดจากการ พยายามที่จะลักทรัพย์  ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ด้วย เช่นหากเราจอดรถไว้ที่ลานจอดรถขณะที่คนร้ายกำลังงัดรถของเรา เราเดินมาเจอพอดีและได้ตะโกนเรียกให้คนช่วยคนร้ายตกใจเลยหลบหนีไป แต่พอตรวจสอบแล้วพบว่ารถได้รับความเสียหายเป็นรอยถลอกเนื่องจากการงัดแงะของคนร้าย ซึ่งกรณีนี้ก็จะได้รับความคุ้มครองเช่นกัน

         4.2 รถไฟไหม้ บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการ ไหม้โดยตัวของมันเอง(จอดอยู่เฉยแล้วไฟไหม้หรือขับๆอยู่แล้วไฟไหม้) หรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องจากสาเหตุใดๆก็ตาม(เช่นไฟไหม้บ้านแล้วลุกลามไปถึงตัวรถ)

 ข้อยกเว้น การยกเว้นในกรณีสูญหายไฟไหม้ จะยกเว้นในกรณีที่เกิดจากการลักทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์ โดยบุคคลที่ได้รับมอบหมายหรือครอบครองรถตามสัญญาเช่า สัญญาเช่าซื้อ หรือสัญญาจำนำ เช่น นายแดง(บุคคลที่ได้รับมอบหมายหรือครอบครองรถตามสัญญาเช่า)ไปขอเช่ารถจาก บริษัท Car Rent เมื่อครบกำหนดเวลาเช่านายแดงไม่ยอมคืนรถแต่กลับยักยอกเป็นของตัวเอง ต่อมารถคันดังกล่าวเกิดสูญหาย ในกรณีนี้บริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายในครั้งนี้

                                 ค่าสินไหมประกันภัยรถยนต์