- ดูสภาวะการใช้งาน เป็นสิ่งที่เราต้องคิดเพื่อให้มันสอดคล้องกับเรามากที่สุด เราควรจะคิดถึงว่า เราขับรถอย่างไร ขับไปไหน ไกลมากเท่าไร และยังรวมถึง สภาวะต่างๆที่เป็นความเสี่ยงและอาจเกิดขึ้นว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด แล้วเลือกประเภทประกันภัยให้เหมาะสมกับการใช้งาน
- เลือกบริษัทที่ไว้ใจได้ ถ้าหากเป็นไปได้ อยากให้คุณเลือกการทำประกันกับบริษัทประกันภัยจริงๆ แม้ราคาจะแพงกว่าก็ตาม แต่มันก็ยังช่วยให้คุณอุ่นใจได้มากกว่ามาเจอเรื่องปวดหัวในภายหลัง คราวนี้เรามาดูสิว่า จะมีวิธีการอย่างไรบ้าง ที่จะทำให้เบี้ยประกันนั้นถูกลง จนเป็นที่น่าพอใจกับความคุ้มครองในด้านต่างๆ
1. ระบุชื่อคนขับ ถ้าคุณเป็นเจ้าของรถและเป็นผู้ทำประเอง ขับรถคันนี้คนเดียว ทางออกนี้เป็นหนทางแรกที่เราอยากจะแนะนำว่า ให้ควรทำเสียเป็นข้อแรกๆ การระบุชื่อคนขับนั้นจะให้มีส่วนลดค่าเบี้ยประกันตั้งแต่ 5% ไปจนถึงสูงสุดที่ 20 % ทำให้สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ ปกติแล้วในการทำประกันภัยรถนั้นคุณสามารถระบุชื่อผู้ขับได้ 2 คน ซึ่งก็นับว่าเพียงพอต่อการใช้งานจริงๆในชีวิตประจำวันและนิสัยการขับขี่
2. ขับน้อยจ่ายน้อย จะไปจ่ายแพงทำไม ถ้าคุณใช้รถน้อยและเดินทางไม่ไกลมากมายนัก โดยปกติแล้วหากเราระบุต่อประกันภัยได้ว่า ในวันหนึ่งเราเดินทางไปไหนระยะทางกี่กิโลเมตร เราก็ช่วยลดการประเมินความเสี่ยงของเราจากบริษัทประกันภัยได้ทำให้ลดราคาค่าเบี้ยลงไป หรืออาจเลือกแพ็คเกจสำหรับรถใช้งานน้อยก็ได้ ซึ่งจะมีค่าเบี้ยต่ำกว่าแบบปกติ
3. ค่าเสียหายส่วนแรกช่วยคุณได้ หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักค่าเสียหายส่วนแรกหรือ Deductible ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อคุณประสบอุบัติเหตุแล้วถูกพิจารณาว่า เป็นฝ่ายผิดเท่านั้น คุณจำเป็นต้องจ่ายเบี้ยประกันให้บริษัทประกันในส่วนแรกก่อนการเคลม ทั้งนี้ค่าเสียหายส่วนแรกนี้สามารถช่วยคุณได้ และทำได้จริงๆหากคุณคิดว่าคุณใช้รถน้อย ขับเจ๋งจริง และยากที่จะเกิดอุบัติเหตุ คุณสามารถของให้ขึ้นค่า Deductible นี้ได้ ซึ่งจะทำให้ค่าเบี้ยคุณนั้นลดลงไปอีก แต่จะมีปัญหาตอนที่คุณเกิดอุบัติเหตุและถูกตัดสินจากเจ้าหน้าที่ว่าเป็นฝ่ายผิด ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับคุณเป็นคนตัดสินใจ
4. จูงมือเพื่อนซื้อประกัน ประกันภัยก็เหมือนสินค้าทั่วไป ยิ่งซื้อมากคุณก็ยิ่งคุ้ม การที่เราทำประกันภัยรถหลายๆคันพร้อมๆกัน หรือหากที่บ้านมีรถหลายคัน หากคุณตัดสินใจทำประกันพร้อมกันด้วยบริษัทเดียว มันก็จะช่วยให้คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายต่อหน่วยได้